บทแนะนํา: เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างรายได้รูปแบบผสมโดยใช้ AdMob, Google Analytics และ Firebase

ขั้นตอนที่ 1: ใช้ AdMob สร้างหน่วยโฆษณาใหม่สำหรับโฆษณาแบบดิสเพลย์


บทนำ: เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างรายได้รูปแบบผสมโดยใช้ AdMob, Google Analytics และ Firebase

ขั้นตอนที่ 1: ใช้ AdMob สร้างหน่วยโฆษณาใหม่สำหรับโฆษณาแบบดิสเพลย์

ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่า Google Analytics
ขั้นตอนที่ 3: ตั้งการกำหนดค่าระยะไกลของ Firebase เพื่อแสดงประสบการณ์การใช้งานโฆษณาที่เจาะจง


ในการเริ่มต้นใช้งาน คุณต้องสร้างหน่วยโฆษณาใหม่ขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงติดตั้งโฆษณาในโค้ดของแอป

บทแนะนำนี้ใช้รูปแบบโฆษณาคั่นระหว่างหน้าเป็นรูปแบบใหม่ที่อยู่ระหว่างการทดสอบการใช้งาน แต่เมื่ออ่านบทแนะนำนี้ ให้คำนึงว่าคุณสามารถทำตามขั้นตอนที่คล้ายกันนี้เพื่อติดตั้งและทดสอบรูปแบบโฆษณาอื่นๆ ได้

สร้างหน่วยโฆษณาในบัญชี AdMob

ในบัญชี AdMob ให้ทำตามข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอเพื่อสร้างหน่วยโฆษณาโฆษณาคั่นระหว่างหน้าที่คุณจะแสดงในแอป

การตั้งค่าหน่วยโฆษณาอื่นๆ ไม่สำคัญสำหรับบทแนะนำนี้ ดังนั้น ให้เลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมกับแอปของคุณ

ติดตั้งหน่วยโฆษณาในฐานของโค้ดของแอป

หลังจากที่คุณสร้างหน่วยโฆษณาแล้ว AdMob จะกำหนดรหัสหน่วยโฆษณาที่ไม่ซ้ำสำหรับหน่วยโฆษณานั้น อย่าลืมว่าคุณจะหารหัสหน่วยโฆษณานี้ได้จากที่ใดในบัญชี AdMob เพราะคุณจะต้องใช้รหัสดังกล่าวสำหรับติดตั้งโฆษณาในแอป หากคุณสร้างหน่วยโฆษณามากกว่า 1 หน่วย คุณจะต้องใช้รหัสหน่วยโฆษณาสำหรับแต่ละหน่วยโฆษณาแต่ละหน่วย

ทำตามวิธีการบนหน้าจอ (หรือไปที่ลิงก์ด้านล่าง) เพื่อผสานรวม SDK โฆษณาในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Google (AdMob) (หากยังไม่ได้ทำ) และติดตั้งหน่วยโฆษณาใหม่ในแอป

ในขั้นตอนถัดไปของบทแนะนำนี้ คุณจะได้กำหนดค่าการกำหนดค่าระยะไกลของ Firebase เพื่อแสดงหน่วยโฆษณานี้โดยพิจารณาว่าผู้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเป้าหมาย Google Analytics ของ "ผู้ซื้อ" หรือไม่




บทนำ ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่า Google Analytics